แอบได้ยินแม่บ่นๆ กับพ่อว่าทำไมลูกคิดไม่มีเล้ย... จะเอานิสัยขี้เล่น ทะเล้น สนุกสนาน ของแม่ติดตัวมาบ้าง เพราะแม่ตามไปดูกิจกรรมที่โรงเรียนทุกเช้าวันพุธทีไร ได้เรื่องกลับมาทุกครั้งสิว่า ที่ให้เต้นก็เต้นอยู่หรอกนะ แต่ลูกคิดหน้าตายมากๆ เหมือนพ่อเปี๊ยบ (เหมือนในโฆษณาที่ผู้กำกับต้องบอกว่า "น้อง ทำหน้ามันๆ หน่อย")
แถมมีลามไปถึงนิสัยขี้น้อยใจ โดนตำหนิ หรือต่อว่าอะไรนิดอะไรหน่อย เป็นไม่ได้ อารมณ์พุ่งพล่าน โมโหโกรธา เถืยงฉอดๆๆ หรือไม่ก็ร้องไห้ฟูมฟายเป็นการใหญ่ (อันนี้ แม่ก็ว่าลูกคิด เป็นเหมือนพ่อเปี๊ยบอีกนั่นแหละ) มีหลายครั้งที่กลับจากโรงเรียนมาถึงบ้าน ลูกคิดหน้าจ๋อย แม่ถามว่าเป็นอะไรคะ ลูกคิดก็ตอบว่าโดนคุณครูดุด้วยสายตา เพราะซน เพราะแกล้งเพื่อน ตามประสาเด็ก แม่ก็ "โถ! ลูก เรื่องแค่นี้เอง แม่น้ำของลูกคิด ดุกว่าคุณครูตั้งหลายร้อยเท่า"
พ่อเคยเล่าถึงที่มาของชื่อ "ลูกคิด" ของลูกคิดไว้ใน
Blog-tag ของพ่อ ว่า มาจาก
ลูกไป
คิดเอาเองนะ
ก็ไม่รู้เป็นเพราะว่าชื่อนี้รึเปล่านะคะ ที่ทำให้ลูกคิดเป็นเด็กช่างคิด ช่างจดช่างจำ เก็บเล็กเก็บน้อยไปหมด ทั้งเรื่องดีเรื่องไม่ดี ยังดีหน่อยนึงค่ะ แม่ชมบ้างเหมือนกันว่า ท่าทางลูกคิดจะเอาดีทางเรียนได้ แต่บันเทิงเห็นแววจะไม่ไหว (ไหน! ทำไมเป็นงั้นไปละคะ เมื่อไม่นานมานี้ ยังเคยชมว่าลูกคิดมีแวว AF 22 อยู่เลย)
พ่อบอกว่า สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับลูกคิดก็คือ ต้องสอนให้รู้จักด้อยเป็น แพ้ได้ คนเราไม่มีใครเก่งไปซะทุกอย่าง เราเด่นเรื่องที่เพื่อนด้อย เราก็ด้อยเรื่องที่เพื่อนเด่นได้เหมือนกัน และที่สำคัญคนเราทุกคนทำผิดได้เสมอ จะตัดสินใครให้ดูที่เจตนาเป็นหลัก แล้วก็ให้ผิดเป็นครู (ครูอะไรดีน้า) อย่าผิดซ้ำซากเรื่องเดิมๆ -- เข้าข่ายเรื่อง ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) นะคะเนี่ย
แม่กับพ่อเห็นเหมือนกันว่า เรื่องทำนองนี้ ในวัยประมาณนี้ และโดยเฉพาะลูกคิด จะให้ดี ต้องให้ครูเป็นคนสอน น่าจะได้ผลดีที่สุด (ลูกคิดแอบได้ยินพ่อกับแม่คุยกันมาไม่เท่าไรเลยนะคะ)