Saturday, May 31, 2008

เด็กชายสนั่นกับครูระเบียบ

"เด็กชายสนั่น เป็นเด็กดี เด็กชายสนั่น ชอบไปโรงเรียน"
"เด็กชายสนั่น เป็นเด็กดี เด็กชายสนั่น ชอบไปโรงเรียน"
"เด็กชายสนั่น เป็นเด็กดี เด็กชายสนั่น ชอบไปโรงเรียน"

วันแรกๆ ของการไปเรียนซัมเมอร์ที่ผ่านมา พ่อสอนให้ลูกคิดท่องประโยคข้างต้นบ่อยๆ แล้วถามด้วยว่า ลูกคิดอยากเป็นเด็กดีเหมือนเด็กชายสนั่นรึเปล่า? "ลูกคิดอยากเป็นค่ะ" ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปโรงเรียน ที่โรงเรียนมีเพื่อนเยอะแยะเลย มีของเล่นมากกว่าที่บ้านอีก คุณครูก็ใจดีด้วย

แต่ในบทบาทตอนอยู่ที่บ้าน คนที่แสดงเป็นคุณครู กลับกลายเป็นแม่ซะส่วนใหญ่ ทั้งขวนขวายหาหนังสือ สื่อการเรียนการสอน เล่านิทาน สอนการบ้าน แบบฝีกหัด -- ดูคร่ำเคร่งและกลัวว่าลูกคิดจะพัฒนาการช้า

ส่วนพ่อ (เด็กชายสนั่น) ดูจะไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรนะคะ พ่อเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจ อย่างลูกคิดเนี่ย ถ้าสนุกและสนใจ ความตั้งใจก็จะตามมา ไล่ทันเพื่อนๆ แน่นอน ดูพ่อมั่นใจจริงๆ พ่อบอกว่าสิ่งที่ต้องทำ คือ สร้างทัศนคติ ให้ลูกรู้สึกว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก เท่านั้นก็จบแล้ว (จะทันไม่ทันเพื่อน ไม่ใช่เรื่องใหญ่)

แต่ถึงอย่างไรด้วยความเป็นเด็ก ซึ่งสมาธิยังไม่มั่นคงเหมือนผู้ใหญ่ ก็ยังจำเป็นต้องมีคุณครูระเบียบประจำบ้านไว้ด้วย เพื่อไม่ให้เป๋ -- ลูกคิดโชคดีจังมีทั้งสองแบบ และลูกคิดก็รักคุณครูในบ้านทั้งสองคนที่สุดในโลกเลยค่ะ

Tuesday, May 27, 2008

พ่อขา! อะไรสำคัญกว่า

ระยะนี้ไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร ตั้งแต่ลูกคิดเปิดเทอมมา น้อยครั้งมากที่พ่อจะใส่ใจ ถามไถ่ว่า แต่ละวันที่โรงเรียน ลูกคิดเป็นอย่างไร คุณครูสอนอะไร หรือว่าทำกิจกรรมอะไรบ้าง มีแต่แม่คนเดียวเท่านั้น ใส่ใจและคอยจ้ำจี้จ้ำไช ให้ลูกคิดหัดทำแบบฝึกหัด ทั้งคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ต่างๆ นานา ส่วนพ่อ กลับจากทำงานมา อาบน้ำ ทานข้าว เสร็จแล้วออนไลน์สักพัก ก็ขึ้นนอน

ค่ำนี้ แม่วางการบ้านระบายสี+ลากเส้น ของลูกคิด ไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์พ่อ ไม่รู้ว่าพ่อได้ดูบ้างรึเปล่านะคะ แต่ท่าทียังดูเฉยเมยไม่สนใจ เหมือนทุกวัน ... หรือว่างานจะสำคัญสำหรับพ่อมากกว่าลูกคิดคะ ได้ยินแม่พูดกับพ่อ เมื่อสักครู่นี้เอง

"แม่ไม่ได้วางการบ้านของลูกไว้ให้เกะกะพ่อหรอกนะ ตั้งใจจะให้พ่อดู เผื่อจะอยากรู้บ้างว่า วันนี้ลูกเรียนอะไร"



ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า พ่อจะได้แวะเข้ามาอ่าน ระบายความในใจนี้ของลูกคิด เมื่อไหร่?

ลูกคิดรัก เป็นห่วงพ่อมาก และในขณะเดียวกัน ก็อยากให้พ่อแสดงออก ตอบกลับลูกคิดบ้างนะคะ

ภาพประกอบ: http://www.blogspot.com

Saturday, May 17, 2008

ลูกคิดก่อนคลอด

เมื่อวานเป็นวันแรกจริงๆ ที่ลูกคิดไปโรงเรียน และได้ใส่ชุดนักเรียนอย่างเป็นทางการ (หลังจากเปิดเทอมมาแล้ว 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 ที่ผ่านมา) -- เห่อซะไม่มี กลับบ้านมาไม่ยอมถอดชุดนักเรียน รอให้พ่อกลับจากทำงาน เพื่อมาดูว่าลูกคิดสวยมั้ย .. อะ ก็นิดนึงค่ะ

ลูกคิดได้ยินแม่บ่นอยู่บ่อยๆ ว่าไม่ได้ถ่ายรูปตอนตั้งท้อง เก็บไว้ให้ลูกคิดดูบ้างเลย (แม่ว่าน่าเกลียดมาก จนไม่ยอมให้ใครถ่ายรูปไว้เลย) เย็นนี้พ่อบอกว่าบังเอิญจริงๆ เจอจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คพ่อที่ทำงาน ลูกคิดเลยถือโอกาส แอบนำมาให้ชมกัน (แม่น้ำไม่อยากให้เผยแพร่)



เด็กในภาพนั่นคือ พี่ปลาดาว ตอนนั้นอายุประมาณเก้าเดือนหลังคลอด ลูกคิดก็เกือบๆ เก้าเดือน แต่ก่อนคลอดค่ะ

ปล. พ่อแม่กำลังนึกกันอยู่ว่านำภาพอัลตราซาวน์เก็บไว้ที่ไหน

Thursday, May 15, 2008

ลูกคิดออนไลน์

เมื่อเช้าครูเจี๊ยบโทรถามพ่อว่า อาการป่วยของลูกคิดเป็นอย่างไรบ้าง พ่อบอกว่ายังไม่หายสนิทเลย คงจะไปโรงเรียนได้ก็สัปดาห์หน้านั่นแหละค่ะ ครูเจี๊ยบกลัวว่าลูกคิดจะเรียนไม่ทันเพื่อน (แต่ดูเหมือนพ่อจะไม่ค่อยเป็นกังวล เรื่องนี้ซักเท่าไหร่นักนะคะ)

ช่วงนี้เมื่อยังไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ลูกคิดจำเป็นต้องใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการเสริมทักษะออนไลน์ โดยความกรุณาจากแม่น้ำค่ะ







ขอขอบคุณ: MY ANNA BLOGGANG

Saturday, May 10, 2008

ไซนัสอักเสบ

วันนี้คุณหมอนัดติดตาม ผลการรักษาอาการป่วยจากปอดบวมของลูกคิด ปรากฏว่าปอดดีขึ้นมาก แต่แม่บอกคุณหมอว่า น้ำมูกลูกคิดยังไหลเยอะทุกวันเลย ด้วยความสงสัย ก็เลยถูกจับไปเอ็กซเรย์เพื่อดูไซนัส (ลูกคิดเคยต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลครั้งแรก ก็เพราะไซนัสอักเสบ จนปวดหัว และใต้ตาขวาช้ำ เมื่อประมาณหนึ่งปีมาแล้ว)



สรุปว่า มีอาการไซนัสอักเสบจริงๆ คราวนี้ได้ยาพ่น เพื่อลดอาการบวมของจมูกมาด้วย และเสาร์หน้าก็นัดดูอาการ อีกตามเคย เดือนเศษที่ผ่านมานี้ ครอบครัวลูกคิด วนเวียนอยู่แถวๆ โรงพยาบาลมาตลอดเลยค่ะ หน้าพ่อที่ว่าดำๆ เพราะกรำแดด กลายเป็นซีดขาดเลือดได้เหมือนกันนะคะเนี่ย

คุณหมอแอบแนะนำทีเล่นทีจริงว่า ให้ลูกคิดลาออกจากโรงเรียนกสิณธรเถอะ เพราะว่าทั้งอาคารเรียนของอนุบาล เป็นห้องแอร์ทั้งหมด อากาศไม่ค่อยถ่ายเท เด็กที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง (แทบจะร้อยทั้งร้อยละค่ะ) ก็จะป่วยแล้ว ป่วยอีก อย่างที่ลูกคิดเป็นนี่แหละค่ะ (เล่นเอาพ่อแม่ ออกอาการเหนื่อยใจไม่น้อยทีเดียว)

พ่อว่าเรื่องอื่นค่อยว่ากัน ตอนนี้ยังไงๆ ก็เอาให้หายสนิทก่อนแล้วกัน ลูกคิดสู้ๆ .. สู้ไหวไหมน้า?

Links เกี่ยวข้อง:

ภาพประกอบ: http://content.revolutionhealth.com

Monday, May 05, 2008

อนุ(พยา)บาล

พ่อแอบบ่นเล่นมุขเล่นคำขำขำ (จ่อยๆ) สงสัยว่า "บาล" ในคำ "อนุบาล" จะหมายถึงโรงพยาบาลรึเปล่านะ เพราะแค่ Summer Course อนุบาล 1 ของลูกคิด ก็ไปกลับโรงเรียนพอๆ กันกับไปกลับโรงพยาบาลเลยค่ะ

ล่าสุดเมื่อวานนี้ คุณหมอบอกว่าลูกคิดเป็นปอดอักเสบ (ภาษาชาวบ้านเรียก "ปอดบวม") โชคดีนะคะว่าคุณหมอวนิดาถามก่อน ว่าเบิกได้มั้ย พ่อบอกว่าหมดโควตาแล้ว ก็เลยใช้วิธีไป-กลับทุกวัน ต้องมาพ่นยา+ฉีดยาทุกวัน สนนราคาค่าใช้จ่ายก็ตกวันละ 1 พันกว่าบาทถึง 2 พัน แม่บอกว่า "นะพ่อ ยังไงก็ยังดีกว่ามานอน เพราะเบ็ดเสร็จแล้วตกคืนละเกือบ 1 หมื่นบาท" -- ต้องกัดฟันสู้ๆ กันต่อไปละค่ะ

สองวันติดต่อกันแล้ว พ่นยา และฉีดยาฆ่าเชื้อ (เข็มละ 1,000.-) พรุ่งนี้สายๆ ลูกคิดยังต้องเข้าไปให้ คุณหมอติดตามดูอาการ ถ้าดีขึ้น ก็จะไม่ต้องฉีดยาแล้ว แต่รับเป็นยาทานมาแทน -- ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอค่ะ ก้นลูกคิดระบมไปหมดแล้ว

ปล. เจอใครที่มีประสบการณ์ลูกเรียนอนุบาลมาแล้ว ต่างก็พูดเหมือนกันหมดว่า ให้เตรียมเงินค่ารักษาลูกไว้ได้เลย โดยเฉพาะในอนุบาล 1 เรียนๆ หยุดๆ เนื่องจากป่วยบ่อยแน่นอน

ภาพประกอบ: http://www.backtohome.org/

Saturday, May 03, 2008

How to talk to your children about sex

ตั้งแต่ออกจากไปนอนโรงพยาบาลมา ลูกคิดยังไม่หายสนิทดีเลย แค่เกือบๆ แล้วก็กลับมาน้ำมูกไหล ไอค่อกไอแค่ก เป็นระยะๆ เลยค่ะ อย่างเมื่อคืนนี้ก็ไอเพราะมีเสมหะทั้งคืนเลย (เมื่อกี้เพิ่งถูกพ่อแม่จับกวาดคอด้วยเกลือ อ้วกออกมาเหนียวเชียว)



Slide ข้างบนนี้ พ่อแม่มาแปะไว้ทำไมน้า ลูกคิดจะอ่านรู้เรื่องมั้ยเนี่ย เห็นว่าได้มาจาก Susheewa.com ผ่านทางคุณ @phutta

Friday, May 02, 2008

ตัวการ

เมื่อวานเป็นวันหยุดวันแรงงานของพ่อ ตอนเย็นกลับมีเหตุการณ์ตื่นเต้น บ้านไม่มีความสุข เพราะพ่อกับแม่สาดถ้อยคำแรงๆ ใส่กัน เสียงดังลั่นบ้านโดยเฉพาะพ่อ ตอนนั้นลูกคิดอยู่ในเหตุการณ์ ตรงกลางสนามรบอารมณ์ ของทั้งคู่ซะด้วย -- ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย แม้มันจะเป็นชีวิตจริงที่ทุกคนต้องเจอก็ตาม "ลูกคิดอยากให้บ้านมีความสุข"



สาเหตุที่แท้จริง เป็นความเข้าใจผิดกันระหว่างพ่อกับแม่ โดยการสื่อสารผ่านลูกคิดซึ่งเป็นเด็ก ย้ำว่าลูกคิดเป็นเพียงเด็ก 3 ขวบ เอง (นะคะพ่อ นะคะแม่) -- ถ้าพ่อกับแม่เข้าใจผิดกัน ด้วยคำพูดที่ออกจากปากของลูกคิด ลูกคิดก็ขอโทษทั้งพ่อและแม่มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ และสัญญาว่าต่อไปลูกคิดจะพยายามสื่อสาร ไม่ให้พ่อแม่เข้าใจผิดกันอีก

งานนี้ลูกคิดคือตัวการแท้ๆ เลย แต่ยังดีที่ผ่านเหตุการณ์มาได้ และกลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิมแล้ว

ภาพประกอบ: http://sl.nmc.org/

Thursday, May 01, 2008

ประเมินผลพัฒนาการ Summer Course

จบ Summer Course แล้ว คุณครูเจี๊ยบ (คุณครูประจำชั้น อ.1/3) มีสมุดประเมินผลพัฒนาการของลูกคิด มารายงานให้พ่อแม่ดูด้วยค่ะ





ที่จริงในเล่มยังมีผลงาน การระบายสีและลากเส้น ทั้งหมดที่ได้ทำใน summer นี้ด้วย แต่ลูกคิดไม่อยากเอามาอวดหรอกค่ะว่า ลูกคิดได้ 3 ดาว แทบทุกครั้งเลย ^^