Wednesday, December 31, 2008

เค้าดาว

"ยายต๋อย ยายต๋อย เค้าดาว แปลว่าอะไรคะ"

"แม่บอกว่าจะพาลูกคิดไปเค้าดาวที่บ้านยาย"



ภาพประกอบ: http://blindwillie.wordpress.com

Tuesday, December 30, 2008

ทำฟัน 4,830.-

เมื่อสองวันก่อน พ่อกับแม่พาลูกคิดแวะไปตรวจและทำฟันที่โรงพยาบาลนนทเวช มาค่ะ

แม่บอกว่าลูกคิดเก่ง ตอนอุดฟันไม่ร้องไห้เลย แต่มาร้องนิดหน่อย ตอนเคลือบฟลูออไรด์ เพราะว่ารสชาดมันเปรี้ยว



ค่าเสียหาย
  • 1.1.9 ค่าอุดฟัน (8 ซี่) 4,000.-
  • 1.1.9 ค่าขูดหินปูน 300.-
  • 1.1.9 ค่าขัดคราบฟัน 250.-
  • 1.1.9 ค่าเคลือบฟลูออไรด์ 250.-
  • 1.1.14(2) ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ 30.-

(สี่พันแปดร้อยสามสิบบาทถ้วน) 4,830.-

Monday, December 29, 2008

HBD IV ... No Cake

เกิดมาเพิ่งเคยอายุ 4 ขวบกับเขา ก็วันนี้แหละค่ะ ... อิอิอิ

วันเกิดปีนี้ สัญญาไว้ว่า ไม่มีเค้ก

แต่มี...

ตากับยาย พ่อกับแม่ และลูกคิด ไปทำบุญถวายสังฆทานพร้อมกัน

มีบะหมี่หยกเป็ดย่าง มีเอ็มเคสุกี้ มีช้อปปิ้ง แม่ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ให้ยายกับยายต๋อย แบรนด์ซุปไก่สกัดเพื่อสุขภาพให้ตา

ส่วนของลูกคิด แม้จะไม่มีเค้ก ไม่มีเพลง Happy Birthday ไม่มีเทียนให้เป่า

แต่มี...



ความสุข


ปล. ขอบคุณพ่อกับตา สำหรับของเล่นชิ้นใหม่ ที่ช่วยเสริมสร้างจินตาการของลูกคิดค่ะ

Thursday, December 25, 2008

เล่นชิงช้า

พ่อถ่ายภาพและวีดีโอคลิปด้วยโทรศัพท์ ขณะลูกคิดกำลังเล่นชิงช้า ที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้านค่ะ






ภาษาอังกฤษวันละคำ swing แปลว่า ชิงช้า

Tuesday, December 23, 2008

น่ารัก น่าเลิฟ

ลูกคิดกับเพื่อน "จ๋า" หลังจาก หัวใจ...มีงานเข้า พอลงจากเวทีมาแล้ว พ่อแม่ลืมถอดแบตเตอรี่ออก ก็เลย "น่ารัก น่าเลิฟ" กันต่อที่กลางสนาม ดุ๊กๆ ดิ๊กๆ ไม่หยุด อย่างที่เห็นในคลิปนี่ละค่ะ


น่ารัก น่าเลิฟ ... มั้ยคะ

Monday, December 22, 2008

หัวใจ...มีงานเข้า

งานราตรีชมพูขาว ปี 2008 ซึ่งเป็นงานประจำที่จัดขึ้นทุกปี ของโรงเรียนกสิณธร (เซนต์ปีเตอร์) เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตของลูกคิด ที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีใหญ่ (ในสนามฟุตบอล) ซึ่งมีผู้ชม (ผู้ปกครอง) ล้นหลามอย่างนี้

หลังจากฝึกซ้อมกันมาตั้งแต่เปิดเทอม ถึงเวลาแสดงจริงเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา พ่อแม่บอกว่า "ไม่ผิดหวัง ลูกคิดทำได้ดีมาก" รวมทั้งเพื่อนๆ ทุกคนด้วย โดยเฉพาะคาราเมลคู่เต้นของลูกคิด โยกซะน่าเป็นห่วงว่าคอจะเคล็ดนะคะ


การแสดงองก์ที่ 1 ชุดที่ 5 เพลง "หัวใจ...มีงานเข้า"

Thursday, December 18, 2008

ชิ้นเนื้อของแม่

เมื่อวานนี้ (17 ธันวาคม) แม่ไปผ่าตัดชิ้นเนื้อปูดๆ ใต้ผิวหนัง แขนข้างขวา ที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยมีป้าดวง (แม่เพื่อนก้าว) กับป้าแอ (แม่เพื่อนจ๋า) ไปเป็นเพื่อนกันสามคน แม่บอกว่าต้องเข้าห้องผ่าตัดด้วย ฟังดูน่ากลัวจังนะคะ แต่ทำไม่นาน ตอนเย็นแม่ยังแวะมารับลูกคิดที่โรงเรียน

หลังจากผ่าตัดแล้ว แม่ได้รับชิ้นเนื้อดังกล่าว หนึ่งชิ้นใหญ่ กับอีกหนึ่งชิ้นเล็กกว่า เก็บกลับมาด้วย อย่างที่เห็นในภาพนั่นแหละค่ะ



พ่อบอกว่า "ลูกคิดเองก็เป็นส่วนหนึ่งของแม่ด้วยเหมือนกัน ถ้าวันไหนทำตัวไม่ดี กลายเป็นชิ้นส่วนที่ไม่ต้องการ แม่คงจะตัดทิ้งเหมือนกัน" แต่ลูกคิดงงๆ ไม่ค่อยเข้าใจที่พ่อพูดเท่าไรนักอะค่ะ

ปล. แม่ยังมีคิวต้องผ่าตัดอีกครั้ง วันที่ 5 มกราคม ปีหน้านี้

Monday, December 15, 2008

White Rabbit Princess

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ พ่อแม่บอกว่าลูกคิดต้องเป็นฤาษีเฝ้าบ้าน ออกไปเที่ยวนอกบ้านก็ไม่ได้ ออกไปวิ่งเล่นหน้าบ้านก็ไม่ควร เพราะว่าหวัดลงคอ ไอมา 4-5 วันแล้ว ยังไม่หายดี (แต่หาหมอ และได้ยามาทานแล้วค่ะ)

ไม่เอาด้วยหรอกค่ะพ่อ อย่างลูกคิดเนี่ยนะจะเป็นฤาษี วันอาทิตย์แม่ลื้อตู้เสื้อผ้า ลูกคิดบังเอิญเห็นชุดนี้เข้า เลยขอแม่มาลองใส่ แล้วให้พ่อถ่ายรูปให้



"ลูกคิดเป็น...นางฟ้า"
"ลูกคิดเป็น...กระต่าย"
"ลูกคิดเป็น...เจ้าหญิงกระต่ายสีขาว"

Wednesday, December 10, 2008

ยอมรับว่าโกหก

วันนี้วันรัฐธรรมนูญ โรงเรียนหยุด 1 วัน ลูกคิดกับแม่ไปเที่ยวบ้านยาย ส่วนพ่อนั่งทำงานอยู่บ้าน

ลูกคิดเมื่ออยู่ที่บ้านยาย กลายเป็นเด็กที่สนใจแม่เลย ขอขนมยายกินแบบห่อต่อห่อ แม่ปรามก็ทำไม่ได้ยิน เพราะรู้ว่ายังไง ยายก็ตามใจ และเอาใจหลานรักอยู่แล้ว

ลูกคิดเมื่ออยู่ที่บ้านยาย กลายเป็นเด็กไม่รักษาสัญญา ก่อนมารับปากพ่อกับแม่ว่า ขอขนมยายกินได้เพียง 1 ห่อเท่านั้น ... ค่ะพ่อ ค่ะแม่ -- ตอนขอ ก็แอบกระซิบข้างหูยาย ไม่ได้แม่ได้ยินอีกต่างหาก

กลับมาบ้าน ยังโกหกพ่ออีกว่า ถึงแม้วันนี้จะกินขนมมากกว่า 1 ห่อ แต่ลูกคิดขอเองแค่ห่อเดียว นอกนั้น ยายบังคับลูกคิดกินเอง จะไม่กินก็ไม่ได้ ไม่อยากขัดใจยาย

มีหรือว่าพ่อจะไม่รู้ทัน พ่อเล่นมุขกลับว่า แม่เล่าให้พ่อฟังอีกอย่างหนึ่ง ตกลงว่าแม่โกหกพ่อ ใส่ร้ายลูกคิดใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้น พ่อจะต้องต่อว่าแม่ เพราะแม่เป็นคนไม่ดี เป็นคนโกหก

เท่านั้นละ ลูกคิดปล่อยโฮ น้ำตาไหลพราก

ลูกคิด: "ฮือๆๆ... หนูไม่อยากให้พ่อว่าแม่ เพราะว่าหนูรักแม่"
พ่อ: "ไม่ได้หรอกลูก คนทำผิดก็ต้องถูกต่อว่า จนกว่าจะยอมรับผิด พ่อไม่ชอบคนโกหก"
ลูกคิด: "ฮือๆๆ... ก็หนูรักแม่"
พ่อ: "ก็แม่โกหกพ่อว่า ลูกคิดขอขนมยายกินหลายห่อ แต่ลูกคิดบอกพ่อว่าขอแค่ 1 ห่อ ยังไงพ่อก็ต้องจัดการแม่"

พ่อ: "ลูกคิดว่าแม่เป็นคนโกหกรึเปล่าละครับ ที่พูดเรื่องไม่จริงกับพ่อ... หรือว่าเรื่องจริงเป็นอย่างที่แม่เล่าครับ"
ลูกคิด: "หนูไม่รู้ หนูจำอะไรไม่ได้แล้ว... ฮือๆๆ"
พ่อ: "ไม่เป็นไรหรอกลูก ถ้าแม่ยอมขอโทษ ยอมรับผิด พ่อก็จะให้อภัย คนเราทำผิด กล้ายอมรับผิด พ่อก็ให้อภัยได้ครับ"
ลูกคิด: "แง้ แงๆๆๆ ... พ่อ ลูกคิดยอมรับผิดแล้วค่ะว่า ลูกคิดเป็นคนขอขนมยายกินหลายห่อเอง หนูขอโทษนะคะพ่อ"
พ่อ: "โอ๋ๆ ไม่ต้องร้องไห้ลูก ดีแล้วล่ะ ที่ทำผิดแล้วกล้ายอมรับผิด ต้องอย่างนี้สิครับ ... พ่อให้อภัยหนูได้ รู้มั้ยคะ"
ลูกคิด: "ค่ะพ่อ ฮือๆๆๆ... ต่อไปหนูจะไม่โกหกอีกแล้วค่ะ"

ตอนที่คุยกันนั้น พ่อกำลังอาบน้ำให้ลูกคิดอยู่ในห้องน้ำ ส่วนแม่นอนหลับอยู่ในห้องนอนค่ะ

ภาพประกอบ: http://www.yeshotelrome.com

Saturday, December 06, 2008

ภาพลวงตา

วีดีโอคลิป ปาร์ตี้ในคืนวันพ่อ ที่บ้านพี่แพรว กับคาราโอเกะเพลงภาพลวงตา ซึ่งลูกคิดวาดลีลาซะ ทุกๆคน แม้แต่พ่อกับแม่เองยังตาค้าง

แม่สงสัยว่าท่าโยกย้วยแบบนี้ ใครสอนลูกคิดมานะ (คุณครูเจี๊ยบนั่นเองละค่ะ ก็เพิ่งประกวดร้องเพลงวันพ่อมาเมื่อไม่กี่วันเอง)

ภาพลวงตา #1


ภาพลวงตา #2

Wednesday, December 03, 2008

กิจกรรมวันพ่อ ๒๕๕๑

กิจกรรมวันพ่อแห่งชาติของโรงเรียน ในปีนี้ลูกคิดได้เข้าร่วมประกวดร้องเพลง หนูรักพ่อ พ่อรักหนู ระดับชั้นอนุบาล 1 ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ค่ะ พ่อกับแม่มาร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีด้วยนะคะ

เตรียมตัวก้าวขึ้นเวที เพื่อรับใบประกาศฯ


รับประกาศนียบัตรจากท่าน ผอ. (อีกแล้ว)


"หนูรักพ่อ พ่อรักหนู เรารู้ เรารักกัน และวันนี้เป็นวันสำคัญ... "

Wednesday, November 26, 2008

รักพ่อ

เมื่อวานนี้ ตาแวะมารับลูกคิดกับแม่ไปหายาย และพากันไปทานสุกี้ที่โลตัสบางใหญ่ ระหว่างที่เดินเล่น 2 คนอยู่กับตา ลูกคิดเหลือบไปเห็นแสงสีเหลืองๆ เลยถามตา "เค้าเขียนว่าอะไรคะ" พอตาบอกเท่านั้นละ ลูกคิดก็อ้อนอยากได้ขึ้นมาทันที กะว่าค่ำๆ พ่อกลับจากที่ทำงานมา จะเซอร์ไพร้ซ์ (surprise) พ่อซักหน่อย พ่อต้องชอบแน่ๆ เลย

เช้านี้ก่อนไปโรงเรียน ก็เลยหยิบขึ้นมาสวม แอ๊คชั่นถ่ายรูปเก็บไว้เล็กน้อยค่ะ (ตามประสาเด็กเบอร์ห้า)



"...อาจจะฟังแล้วไร้เหตุผล ว่าสิ่งที่ทำให้คนรักกัน..."


ปล. เสื้อคลุมกันหนาวนี่ก็ตัวใหม่ ขอบคุณป้าหมวยนะคะ ที่ซื้อให้ลูกคิด ใครๆ ก็ชมว่างามมาก

Tuesday, November 25, 2008

นอนเหงา เพราะก้าวร้าว

สืบเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของลูกคิดเอง โดยเฉพาะอาการก้าวร้าวที่แสดงออกกับแม่ เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา แม่สอนก็พูดจาปัดรำคาญว่า "รู้แล้วน่า คุณครูเค้าสอนแล้ว" (ทั้งที่จริง คุณครูยังไม่ได้สอน) ทำให้แม่เกิดอาการถอดใจ บวกกับชิงชังลูกคิดขั้นสุด ถึงขนาดออกปากว่า สงสัยจะเป็นแม่ที่ดีไม่ได้ ไม่สามารถเลี้ยงลูกคิดให้นิสัยดีได้แล้วละ แม่ท้อแท้

พ่อเองก็คล้อยตามแม่ (เพราะเคยโดนลูกคิดตวาดใส่อย่างแรงมาครั้งหนึ่ง) เลยเป็นคนต้นคิดว่า ทำโทษลูกคิดด้วยการให้นอนเพียงคนเดียว จากเดิมที่เคยนอนบนเตียงกับแม่ ลูกคิดต้องย้ายลงมานอนที่นอนข้างเตียงเพียงลำพัง พ่อกับแม่จะนอนอยู่บนเตียง -- แต่สรุปว่า แม่เองถอยลงไปนอนข้างล่าง ปล่อยลูกคิดหลับอยู่บนเตียงเพียงลำพัง พ่อก็ว่าจะนอนที่โซฟาห้องนั่งเล่น

ก่อนนอนลูกคิด ลงไปร้องไห้ (จนเสื้อเปียก) ขอให้พ่อขึ้นมานอนด้วย พ่อตอบว่า "...ไม่ได้ครับ นี่เป็นการลงโทษ ความก้าวร้าวของลูกคิด ยังไงก็ต้องทำ ทั้งๆ ที่พ่อแม่ไม่อยากทำ..."

ตื่นเช้ามา พ่อก็มานอนหลับอยู่บนเตียงเดียวกับลูกคิดนั่นแหละ แต่นอนห่างกันมาก เป็นอย่างนี้อยู่ 2 คืน แม่ก็ยกโทษให้ กลับมานอนบนเตียงกับลูกคิดเหมือนเดิม คงเป็นเพราะว่าเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมานั้น ก้าวของลูกคิดไม่ร้าวแล้วมั้งคะ

ลูกคิดขอสัญญาค่ะแม่ ว่าจะเชื่อฟังและทำตัวเป็นเด็กดีของพ่อแม่ให้ได้ แต่ขอพ่อกับแม่เผื่อใจ สำหรับความเป็นเด็กที่ยังไม่เดียงสาของลูกคิดด้วยนะคะ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจทิ้งลูกไปเลยนะ ... นะคะพ่อ นะคะแม่

หมายเหตุ ตั้งแต่ลูกคิดเกิดมา นับได้ไม่น่าจะเกิน 2-3 คืนเท่านั้น ที่ลูกคิดไม่ได้นอนกอดแม่

Sunday, November 23, 2008

รูปนี้ไม่มีทุกบ้าน

คุณครูเจี๊ยบขอภาพถ่ายคู่ ลูกคิดกับพ่อ 1 ภาพ (น่าจะ)เพื่อนำไปจัดบอร์ดวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม ปีนี้ เมื่อวานแอบเห็นพ่อเตรียมรูปนี้ไว้ค่ะ แอบนำมาแสดงก่อนซะเลย อิอิ (ที่ผ่านมา พ่อและแม่ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพคู่กับลูกคิดมากนัก)

Tuesday, November 18, 2008

เปลี่ยนแปลง

พ่อแม่รวมทั้งคุณครูบอกว่า เปิดเทอมสองมานี้ ลูกคิดเปลี่ยนแปลง เป็นไปในทางที่แย่ลงอย่างเห็นได้ชัดมากๆ

เล่นมาก สมาธิสั้น ไม่สามารถตั้งใจทำอะไรได้นานๆ ไม่ว่าจะกิจกรรม หรือการบ้าน คุยแบบไร้สาระมากขึ้น กลับจากโรงเรียน ก็เล่าเหตุการณ์ที่โรงเรียนให้แม่ฟังไม่ได้ ว่าแต่ละวันทำอะไรมาบ้าง มิหนำซ้ำ ยังโกหกเป็นตุเป็นตะ สร้างเรื่องไม่จริงเก่งมาก เล่าเป็นฉากๆ พอถูกจับได้ ถึงยอมสารภาพว่า "ล้อเล่น"

เสาร์-อาทิตย์ ก็คอยจ้องแต่จะเล่นกับเพื่อนทั้งวัน ระหว่างเล่นกับเพื่อน พ่อแม่เรียกก็ทำหูทวนลม ต้องเสียน้ำตาแทบทุกครั้งที่จะเลิกเล่น บางครั้งยังตะหวาดพ่อแม่ซะด้วยซ้ำ ขณะกำลังได้รับการอบรมสั่งสอน (ทั้งน้ำตา) ลูกคิดก็รับปากว่า "ก็ได้" หมดซะทุกเรื่อง -- แต่ไม่เคยทำได้อย่างที่รับปากเลยซักครั้งเดียว

หน้าเป็น ล้อเลียน เล่นไม่เลิก พ่อแม่พูดดีๆ ด้วยเป็นสิบๆ เที่ยว ไม่ยอมเลิกเล่น ไม่ว่าจะตื่นนอน กินข้าว อาบน้ำ เก็บของเล่น -- จนพ่อและแม่ต้องเล่นบททศกัณฐ์ และลูกคิดก็โศกาน้ำตาไหลทุกครั้งไป

เกียจคร้าน อะไรที่เคยทำเองได้ ทำไม่เป็นแล้ว ปวดฉี่ ปวดอึ เมื่อก่อนเคยถอด-ใส่ กางเกง เดินไปห้องน้ำเองได้ เดี๋ยวนี้ต้องมาเรียกพ่อ-แม่ ให้ทำให้ งานบ้านที่เคยช่วยแม่กรอกน้ำ ก็ไม่มีอยู่ในความคิดอีกแล้ว เอาแต่นอน หรือไม่ก็เล่น รอเวลาจะออกไปเที่ยวนอกบ้าน

ไม่ดูก็จะเปิดทีวี ไม่ร้อนก็จะเปิดแอร์ รื้อของเล่นออกมา เลิกเล่นก็ไม่เก็บ (โดนพ่อทุ่มพังไปหลายชิ้น) รื้อออกมาจนหมด ก็เดินปัดก้นหนีไปซะเฉยๆ จะทำอะไรต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ไม่อย่างนั้น ไม่ยอมทำง่ายๆ

เป็นอย่างไรบ้างคะ พัฒนาการของลูกคิด ช่วงย่างเข้าสู่วัยสี่ขวบ ข้างบนนั่นแค่ตัวอย่างบางส่วนเท่านั้นเองค่ะ ^_^

Wednesday, November 12, 2008

ลอยกระทง

และแล้วคำอธิษฐานของปีที่แล้วก็เป็นความจริง ลอยกระทงปีนี้ลูกคิดได้กลับมาที่วัดแสงฯ อีกครั้ง แต่ปีนี้คนมากันเยอะมากๆ ต่างกับปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่วัดไม่ได้มีงานรื่นเริง ไม่มีการแสดงมหรสพใดๆ เลย พ่อบอกว่าอาจเป็นเพราะ 1 ปีที่ผ่านมา มีหมู่บ้านจัดสรร ผุดขึ้นมากมายในบริเวณใกล้ๆ รอบๆ นี้

ลูกคิดไม่ได้กลับรถตู้เหมือนทุกวัน แม่อุตส่าห์ไปรับลูกคิดกลับจากโรงเรียน เพื่อให้มาช่วยกันทำกระทง (ซึ่งวันนี้ที่โรงเรียน คุณครูเจี๊ยบก็สอนเด็กๆ ทำกระทงด้วยเหมือนกันค่ะ)



กลับจากวัด ก็ได้ไฟเย็น (ของเล่นประจำเทศกาล) ติดไม้ติดมือกลับมาสนุกกันต่อแถวๆ หน้าบ้าน อยู่พักใหญ่ ก็แยกย้ายบ้านใครบ้านมัน

ปีนี้ ลูกคิดไม่ได้อธิษฐานขออะไรมากมายเลย นอกจากว่า ขอขมาพระแม่คงคง และปีหน้าขอให้มีไฟเย็นเล่นเยอะๆ กว่าปีนี้อีกนะคะ ลูกคิดชอบมาก -- เอ! แล้วเมื่อไหร่จะถึงวันลอยกระทงปีหน้าซะทีนะคะ

Sunday, November 09, 2008

เสน่ห์นนทบุรี

วันนี้พ่อชวนแม่กับลูกคิด ไปชมงานแสดงภาพเขียนสีน้ำ ที่ท่าน้ำนนท์ ชื่องาน "เสน่ห์นนทบุรี...บนเส้นสายลายสีแห่งมรดกวัฒนธรรม ซึ่งขยายเวลาจากเดิมที่จะหมดไปตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม เป็น 15 พฤศจิกายนนี้ พ่อแม่แอบกระซิบกัน เผื่อว่าลูกคิดจะซึมซับและฉายแววศิลปิน อยากเป็นจิตกรน้อยกับเขาบ้าง

เป็นงานจัดแสดงภาพเขียน ผลงานของกลุ่มศิลปินรักษ์เมืองนนท์ ในศาลากลางจังหวัดหลังเก่าของเมืองนนท์ ก่อนเข้างาน ลูกคิดปวดอึต้องขอไปเข้าห้องน้ำครู ที่โรงเรียนอนุบาลนนทบุรี ซึ่งอยู่ติดกัน แม่บอกว่าบรรยากาศห้องน้ำภายในอาคารเก่าแก่โบราณๆ แบบนี้ เหมือนในละครแนวสยองขวัญจริงๆ เลย

แน่นอนว่าห้องแสดงภาพเขียน ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป แต่ถ้าใครชอบและมีโอกาสผ่านไปแถวท่าน้ำนนท์ ลองแวะไปชมกันนะคะ ภาพสวยๆ เยอะแยะเลย ซึ่งส่วนมากเป็นภาพวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในจังหวัดนนท์ ซึ่งที่จริง แค่มาชมศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ก็คุ้มแล้วละค่ะ

บรรยากาศภายในบริเวณศาลากลางเก่า จังหวัดนนทบุรี

ชมภาพเขียนเสร็จ ออกจากสถานที่จัดงานมา พ่อกับแม่พร้อมใจกันสรุปว่า แววจิตกรน้อยในตัวลูกคิดมันคงยังอยู่ลึกๆ วันนี้เลยยังไม่ฉายออกมาให้เห็นน่ะค่ะ

Tuesday, November 04, 2008

เมื่อผลสอบออกมา...

ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าลูกคิดถนัดวิชาอะไร (บันทึกนี้ เพื่อนำมาอวดค่ะ)

Sunday, November 02, 2008

เปิดเทอม เตรียมเสบียง

พรุ่งนี้ลูกคิดเปิดเทอมแล้วค่ะ วันนี้พ่อกับแม่เลยพาไปช้อปปิ้งที่คาร์ฟูร์ เตรียม "เสบียง" ไว้เวลาไปโรงเรียน ที่เห็นในภาพนี้นั้น แค่ 1 สัปดาห์นะคะ ... ขอบอก




ปล. วันนี้เป็นวันครบรอบ 5 ปี วันแต่งงานของพ่อกับแม่

Saturday, November 01, 2008

วันนี้ที่ TK Park

พ่อรับปากแม่และลูกคิดนานแล้วละค่ะ ว่าจะพาไปเที่ยวที่ทีเคพาร์ค (TK Park) จนปิดเทอมเกือบจะเปิดเทอมอยู่อีก 2 วันนี่แล้ว พ่อเพิ่งจะได้พาไป (ทั้งๆ ที่พ่อลาพักร้อนมาเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมา) ... แต่ยังไงสัญญาก็ยังเป็นสัญญา ขอบคุณนะคะพ่อ ขอบคุณป้าป้อมกับอาเพ็ญด้วยค่ะ ที่พาพี่ฟ้า พี่ปลาดาว ไปด้วยกัน

กิจกรรมวันนี้ คือ ลูกคิดได้ทำงานศิลปะกับสีน้ำ ทั้งเป่า หยด ประกบ (ผลงานตามที่เห็นในภาพ) และที่สนุกมากๆ อีกหนึ่งอย่างก็คือ นั่งฟังพี่ๆ ประถมจากโรงเรียนต่างๆ ประกวดเล่านิทาน เก่งๆ กันทั้งนั้นเลยค่ะ


อีกหนึ่งครั้งแรกสำหรับลูกคิด ซึ่งได้ไปเที่ยวเล่นที่ทีเคพาร์ค -- ถ้าสนุกแบบนี้ ลูกคิดคงต้องขอสอง สาม สี่ และ ...

Tuesday, October 28, 2008

ดูหนัง "ปืนใหญ่จอมสลัด"

หลังจากที่ครั้งแรกลูกคิดเข้าโรงหนัง ดูหลวงพี่เท่ง 2 พ่อกับแม่ก็ตั้งใจจะพาลูกคิดดูหนังในโรงอีกเป็นครั้งที่ 2 โดยเล็งเรื่องปืนใหญ่จอมสลัด ไว้นานแล้ว แต่ด้วยความที่วันนี้ ตื่นเช้ากว่าปกติ ทำให้ผล็อยหลับไปเกือบทั้งเรื่อง ได้ดูแค่ช่วงต้นกับช่วงท้ายเท่านั้นเองค่ะ -- แม้จะได้ดูแค่นั้น ก็รู้สึกสนุกไม่น้อยนะคะ เพราะได้เห็นปารี (พี่อนันดา) ขี่ปลากระเบนโผล่ขึ้นมาจากทะเล แล้วร้องตะโกนเสียงดังลั่น ทำให้ปลาวาฬตัวใหญ่ตกใจ พุ่งตามขึ้นมาด้วย



ได้ยินแม่บอกพ่อว่า นานๆ คนไทยจะทำหนังแฟนตาซีอย่างนี้มาให้ชมกัน เลยต้องสนับสนุนกันหน่อย

ภาพประกอบ: wikipedia

Tuesday, October 21, 2008

1-2-3 แชะ

พ่อได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่มาได้ซักสัปดาห์กว่าๆ แล้วละค่ะ เห็นว่าคราวนี้ราคาแค่ 2,500 บาท (เครื่องก่อนนี้หมื่นสาม) แถมเครื่องเดียวใส่ได้ตั้ง 2 ซิมซะด้วย แล้วทำไมเครื่องราคาเป็นหมื่น ถึงใส่ได้แค่ซิมเดียวเองคะ ลูกคิดสงสัยจังเลย

ซื้อโทรศัพท์ แต่ฟังก์ชั่นแรกที่พ่อทดสอบกลับเป็น...

"เอ้า! ลูกคิด ยิ้มหน่อยคร้า..บ 1-2-3 แชะ"


Saturday, October 18, 2008

"Barbie" she is my new friend

สัปดาห์ที่แล้ว ลูกคิดกับแม่ไปนอนค้างที่บ้านยายมา 3 คึน ทิ้งให้พ่ออยู่บ้านคนเดียว (ท่าทางพ่อจะมีความสุข และคงรู้สึกสงบมากขึ้นนะคะ)

ได้ของเล่นใหม่จากตลาดนัดแถวบ้านยาย เป็นตุ๊กตาบาร์บี้ (Barbie) ที่ลูกคิดอยากได้มานานแล้ว ... ขอบคุณค่ะแม่



แม่บอกว่าของแท้มันราคาสูงมาก ตอนนี้เรายังไม่ค่อยมีเงิน ซื้อ version ตลาดนัดไปก่อนนะลูก

Sunday, October 12, 2008

อัศจรรย์สวรรค์โลกล้านปี

วันอาทิตย์นี้ป้าหมวยโทรมาแต่เช้า ชวนไปงาน Thailand Balloon Festival ที่เซ็นทรัลเวิร์ลกัน ซึ่งวันนี้มีงานเป็นวันสุดท้ายแล้วด้วย คำตอบของลูกคิดคือ "โอเคค่า" แต่ระหว่างเดินทาง แม่น้ำเกิดนึกขึ้นได้ว่า ที่เอ็มโพเรี่ยมก็มีงานอัศจรรย์สวรรค์โลกล้านปี และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของงานเหมือนกัน พอแม่นำเสนอว่ามีไดโนเสาร์เท่านั้นละ ทุกคนลงความเห็นว่าไปเอ็มโพเรี่ยมกันดีกว่า

ด้วยความที่แก๊งพวกเรา ไม่มีใครที่คุ้นกับในเมือง โดยเฉพาะห้างเอ็มโพเรี่ยม แม้จะไปถูกและไปถึงแบบไม่ยาก แต่มาออกอาการบ้านนอกเข้ากรุง ตอนที่เดินจากลานจอดรถจะเข้าห้าง หลงขึ้นไป Emporium Suite ออกจากลิฟต์ก็เข้าไปถามใครไม่ได้ เพราะประตูล็อกต้องเปิดด้วย Card สุดท้ายต้องถอยกลับมาตั้งหลักที่ลานจอดรถ มองหาเจ้าหน้าที่พี่ๆ รปภ. ถามจนรู้ทาง ถึงหลุดออกมาได้ (ปาไปกว่า 20 นาทีเชียวค่ะ)

เล่าความเปิ่นกันไปแล้ว มาดูรูปบรรยากาศที่เก็บมาฝากเล็กๆ น้อยๆ จากในงาน ซึ่งไม่อลังการอย่างที่คาด ที่อลังการกลับเป็นปริมาณคนที่ล้นหลาม เห่อตามสื่อประชาสัมพันธ์ ต่อแถวยาวเป็นร้อยเมตร เพื่อเข้าไปดูสวนหย่อมเล็กๆ ตรงกลางห้าง กับอีกแถวเพื่อเข้าดูชีวิตแมลง ที่มีเพียงตู้หิ่งห้อยเล็กๆ ตู้เดียวเอง

อีกัวน่า (ข้างหลังนะคะ) ท่าเดียว ตัวแข็งทื่อ

สวนหย่อมที่เห็นนั่นละค่ะ ที่ต่อแถวรอกัน ยาวเป็นร้อยเมตร

สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส (Siamotyrannus isanensis)
ยาว 6 เมตร สูง 3.60 เมตร น้ำหนัก 400 Kg.


มีกิจกรรม ให้เด็กขุดหาโครงกระดูกไดโนเสาร์


มีไดโนเสาร์ตัวใหญ่ เรียกแขกอยู่หน้าห้าง

หลังจากกลับมาบ้านย่าแล้ว เด็กๆ ต่างก็นอนพักกันหนึ่งงีบ พอมีแรง พวกเราไปว่ายน้ำกันต่อ ซึ่งสำหรับพวกพี่ๆ คงไม่พิเศษอะไรนัก เนื่องจากไปกันประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว แต่สำหรับลูกคิดนะคะ นี่เป็นการว่ายน้ำครั้งแรกในรอบเกือบ 6 เดือน ซึ่งครั้งสุดท้ายก็ตอนไปเที่ยวหาดแม่รำพึง ตั้งแต่กลางเดือนมีนาที่ผ่านมาเลยค่ะ ... งานนี้ก็เลยสนุกสนานสุดๆ






Saturday, October 11, 2008

เดือน 10 วันที่ 11 ครั้งแรกเข้าโรงหนัง

วันนี้ ครอบครัวลูกคิดไปเดินห้างสรรพสินค้า ตั้งใจจะซื้อไม้แบดมินตันใหม่ มาแทนคู่เก่าที่พังไป เอาไว้เล่นกันตอนเย็น แถวๆ หน้าบ้านนี่แหละค่ะ แต่สุดท้ายก็ลืมจน(ไม่)ได้ เนื่องจากแม่มัวแต่เสียเวลากับการเลือกรองเท้า และกางเกงเต้นแอโรบิกเสียนาน

แต่เป็นโชคดีสุดๆ ของลูกคิด ที่ได้ของเล่นกลับบ้านเป็นเลโก้ (Leco) ชุดใหม่ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก 250 ชิ้น (พ่อบ่นแม่สุดสุดเรื่องใช้เงินฟุ่มเฟือย แต่ลูกคิดเห็นพ่อก็ยอมแม่แทบทุกครั้ง) นอกจากนั้นยังได้เข้าดูหนังที่โรงภาพยนตร์ SF เป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยนะ หนังเรื่องหลวงพี่เท่ง 2 กับพ่อแม่และปู่ สนุกจังเลยค่ะ

เพิ่งรู้ว่าชีวิตปิดเทอมมันสนุกอย่างนี้นี่เอง รู้อย่างนี้ ขอคุณครูปิดเทอมซะตั้งนานแล้วละค่ะ







Friday, October 10, 2008

พ่อเกิดวันพฤหัสบดี

เมื่อวานนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของพ่อ แม้ว่าพ่อจะไม่ได้ให้ความสำคัญกว่าวันอื่นๆ กลับจากทำงานมา ทำหน้าตาอิดโรยและเฉยชินเหมือนเช่นทุกวัน แม่ก็รู้ว่าพ่อไม่อยากให้ฉลอง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเซอร์ไพรส์เล็ก เพราะว่าพ่อคือคนพิเศษสำหรับแม่และลูกคิดเสมอค่ะ

แม่เลยแอบเตรียมต้มสุกี้ที่เน้นผักเพื่อสุขภาพ เป็นเมนูพิเศษ ทานกันกับน้ำผลไม้รวม Unif และที่สำคัญลูกคิดเตรียมเค้กไว้ Happy Birthday พ่อด้วยละ มีภาพมาโชว์นิดนึง


น่าทานไหมคะ

พ่ออยู่แถวๆ หลักสี่แล้ว


พ่อตัดเค้กตรงคำว่า "พ่อ" ให้ลูกคิดทาน


วันคล้ายวันเกิดพ่อ พ่อจะใบ้หวย รึเปล่าน้า ...

จะว่าไปแล้ว แม่น้ำเองก็เกิดเดือนตุลาคมเหมือนกับพ่อเลยค่ะ (แล้วยังมีพี่ฟ้าและพี่เมฆอีก ที่เกิดเดือนนี้) อย่างนั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวงานของแม่ปีนี้ เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งตรงกับวันเกิดของแม่จริงๆ ซะด้วย เราค่อยฉลองใหญ่กันก็ได้นะคะแม่

ส่วนพ่อหนั่น เกิดวันพฤหัสบดี แต่ทำมั้ย! ลูกคิดเห็นพ่อชอบดื่มฉลองทุกค่ำคืนวันเสาร์ก็ไม่รู้นะคะ

ลูกคิดอวยพร "ขอให้พ่อสุขภาพแข็งแรง ขอให้พ่อมีความสุขเยอะๆ และขอให้ลูกคิดเรียนหนังสือเก่งๆ ...สาธุ"

Friday, October 03, 2008

Thank You Teacher Party

ลูกคิดสอบเสร็จและปิดเทอมแล้วตั้งแต่เมื่อวาน อา "จวบ" (พ่อของเพื่อนก้าว) นัดพวกเรา 3 ครอบครัว ก้าว จ๋า และลูกคิด ไปเลี้ยงขอบคุณ คุณครูเจี๊ยบ คุณครูป้าเจี๊ยบ และคุณครูนก คุณครูประจำชั้น อ.1/3 ที่น่ารักของพวกเรา ซึ่งตลอดเทอมแรกของชีวิตนักเรียน พวกเราได้รับการดูแล สอนหนังสือ และทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่ของคุณครูทั้งสามท่านเป็นอย่างดีตลอดมา

"ขอบคุณนะคะคุณครู พวกเรารักคุณครูค่ะ"

สำหรับบรรยากาศเมื่อคืนนี้ ในห้องคาราโอเกะ ที่ร้านอาหารอุ่นไอดิน ทุกคนสนุกสนานเป็นอย่างมาก ร้อง เล่น เต้น กันแบบสุดสุด (ภาพฟ้อง) แต่ดูเหมือนคุณครูจะโดนพวกพ่อๆ แย่งซีน รวมทั้งแย่งไมค์ซะเยอะเลย พอตกดึกเริ่มอ่อนเพลียและง่วงนอนกันแล้ว (โดยเฉพาะครูเจี๊ยบ ตาเป็นหมีแพนด้าเลยอะ) ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ทุกคนคงนอนหลับฝันดีนะคะ ... แล้วพบกันใหม่งานหน้าค่ะ บ๊ายบาย



ภาพบางส่วน จากบรรยากาศสนุกสนานสุดๆ เมื่อคืนนี้

Wednesday, October 01, 2008

รถสีฟ้า

เช้าวันหนึ่ง ระหว่างที่ลูกคิดรอรถตู้โรงเรียนมารับ เวลาประมาณ 7 โมง

ลูกคิด: แม่ขาๆ เย็นนี้แม่ไปรับลูกคิดนะคะ
แม่น้ำ: ทำไมเหรอลูก ทำไมถึงไม่อยากกลับรถโรงเรียนล่ะ
ลูกคิด: ก็ลูกคิดไม่อยากเป็นเด็กรถ วันนี้ลูกคิดอยากเป็นเด็กบ้าน นะแม่นะ
แม่น้ำ: โถ! จ้ะลูก แต่แม่ไปรับไม่ได้ทุกวันหรอกนะคะ เดี๋ยวพ่อว่าแม่
ลูกคิด: ค่า แม่ ...เย้ วันนี้แม่จะไปรับลูกคิด


หัวค่ำคืนหนึ่ง ระหว่างดูทีวีอยู่ในห้องนอนกับพ่อ ส่วนแม่กำลังอาบน้ำ

พ่อหนั่น: ลูกคิด ต้องขึ้นรถตู้ไปโรงเรียนอย่างนี้ไปก่อนนะลูก ตอนนี้พ่อยังไม่มีเงินซื้อรถ ให้แม่ขับไปรับไปส่งหนูนะ
ลูกคิด: ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ เดี๋ยวโตขึ้น ลูกคิดเรียนหนังสือเก่งๆ มีเงินเยอะๆ ลูกคิดจะซื้อรถให้พ่อเอง
พ่อหนั่น: ครับ ขอบคุณครับ
ลูกคิด: ลูกคิดจะซื้อรถสีเหลือง เอามั้ยคะพ่อ พ่อชอบสีเหลืองรึเปล่า
พ่อหนั่น: อ๋อ พ่อไม่ชอบรถสีเหลืองครับ
ลูกคิด: อย่างนั้น เอารถสีฟ้านะ พ่อชอบมั้ยคะ
พ่อหนั่น: ได้ลูก รถสีฟ้าก็ได้ครับ



เสร็จจากอาบน้ำ แม่เปิดประตูเข้าห้องนอนเข้ามา

ลูกคิด: ลูกคิดจะเป็นคนขับรถสีฟ้า พาพ่อกับแม่ไปเที่ยวเอง ให้แม่นั่งข้างหน้ากับหนู ส่วนพ่อนั่งข้างหลัง


ภาพประกอบ: http://www.waxmansrugs.com

Friday, September 26, 2008

ญาติล้น

สืบเนื่องจากงานทำบุญบ้านเมื่อวาน ซึ่งบรรยากาศคึกคัก ชุลมุน แต่ไม่วุ่นวาย ลูกคิดลองมานั่งนับเฉพาะญาติที่มางานดูเล่นๆ น่ะค่ะ

สายแม่
  • ตา ยาย
  • ตาศักดิ์ ยายต่าย น้าการ์ตูน ยายทวดปลั่ง (แม่ตาศักดิ์)
  • ยายทวดชิน น้าจี๊ด พี่จิงเจ้อ

สายพ่อ
  • ปู่ ย่า
  • ปู่เล็ก ย่าเล็ก
  • ลุงป๊อก ป้าป้อม
  • ป้าหมวย
  • อาเพ็ญ
  • อาตี๋ อาแต๋น น้องข้าวตัง
สายละ 10 กับ 11 คน รวมเป็น 21 คน ว่าที่จริงแล้วก็ดูเหมือนไม่เยอะเท่าไรนัก แต่ที่ใช้คำว่า "ญาติล้น" นั้น คือล้นบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังน้อย ขนาด 19 ตารางวา ของลูกคิดนะเอง

Thursday, September 25, 2008

ทำบุญบ้าน

ลูกคิดอยู่บ้านหลังนี้มาทั้งชีวิต ทั้งรัก ทั้งผูกพัน และอยากอยู่บ้านมากกว่าไปโรงเรียนอีก ทั้งๆ ที่โรงเรียนมีของเล่นมากมาย มีเพื่อนเยอะแยะ อยู่บ้านหลังน้อยมาก็หลายปี เพิ่งจะเห็นพ่อกับแม่นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป มาสวดมนต์ ทำบุญให้กับบ้านก็วันนี้ละ

ลูกคิดชอบ อยากให้มีงานทำบุญบ้านบ่อยๆ เพราะว่ามีญาติๆ มากันเต็มบ้าน มีเพื่อนเล่นเยอะแยะ อาหารคาวหวานเต็มห้อง (อย่างที่เห็นในภาพข้างล่าง) พระท่านก็สวดเพราะจัง เสร็จแล้วยังเขียนยันต์ให้ที่หน้าประตูบ้านด้วย และก็พรมน้ำมนต์เป็นสิริมงคลให้กับทุกคนด้วยละค่ะ


ยันต์หน้าประตูนี้ เป็นสัญลักษณ์แสดงว่าบ้านเราอิ่มบุญแล้ว


อาหารคาวหวาน ที่แม่ใช้คำว่า "นิดหน่อยเอง"

ต่อจากนี้ไปใครแวะมาเที่ยวบ้าน ลูกคิดก็จะอนุโมทนาบุญฝากกลับไปด้วย ... สาธุ

ปล. ในภาพสอง ที่เห็นในกระติกสีฟ้าๆ ทางด้านล่างขวามือ นั่นคือข้าวดอกอัญชัน ของโปรดของลูกคิดเลยละค่ะ

Sunday, September 21, 2008

เราสามคัน

ไม่ได้พิมพ์ผิดหรอกนะคะ ตามภาพก็เป็นอย่างนั้นเลยค่ะ แม้บ้านลูกคิด จะมีรถถึงสามคัน แต่ค่าก๊าซ ค่าน้ำมัน ไม่ต้องเสียเลยซักบาทเดียว แถมยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย



ส่วนคันไหนจะของใคร ในเราสามคน คงเดากันได้ไม่ยากมั้งคะ

Friday, September 19, 2008

มือตบพันธมิตร

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ จากป้าน้อยเพื่อนบ้านที่แสนดีของป้าดวง (แม่ของเพื่อนก้าว) มาฝากลูกคิด เป็นมือตบ กำลังนิยมกันมากแถวทำเนียบรัฐบาล ขอบคุณป้าน้อย ลูกคิดชอบมากเลยค่ะ...ขอบอก (เล่นทั้งวัน จนโดนแม่ดุ เพราะรำคาญเสียง)





ที่โรงเรียนคุณครูของลูกคิดใช้มือตบแบบนี้ เป็นเครื่องมือในการทำโทษเด็กดื้อหรือว่าซนมากๆ เด็กผู้หญิงจะโดนตีที่ก้น ส่วนเด็กผู้ชายจะโดนตีที่เป้า แต่ตีเบาๆ แบบว่าล้อกันเล่นเท่านั้นนะคะ ไม่ได้โหด แค่มันกับฮา