เมื่อคืนนี้ลูกคิดได้ดูรายการ '
จุดเปลี่ยน' ตอน '
บ้านอุ่นด้วยอ้อมกอด' พร้อมกับพ่อและแม่ บางช่วงบางตอน ประมาณว่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สลับกับละครช่อง 3 น่ะค่ะ แต่โดนใจพ่อกับแม่มาก ที่พี่ผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังห่อกล่องของขวัญ นำไปมอบให้แม่ เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 19 ของพี่เค้า
ทีมงานถามพี่เค้าว่า วันเกิดปีนี้อยากได้อะไรจากแม่เป็นพิเศษรึเปล่า คำตอบคือ อยากให้แม่กอด เพราะตั้งแต่จำความได้ แม่ไม่เคยกอดเลย พ่อกับแม่ของลูกคิดก็ว่า ใช่เลย วันที่เราเกิดคือวันที่แม่เจ็บแทบตาย แต่ทำไมค่านิยมของสังคมทุกวันนี้ จึงคิดแต่จะเลี้ยงฉลอง จัดงานปาร์ตี้ กับเพื่อนฝูงเท่านั้น โดยไม่ได้คิดถึงแม่ผู้ให้กำเนิดเลยแม้สักนิดนะคะ
ครอบครัวเราเลยตั้งปณิธาณกันไว้ว่า ไม่ว่าจะวันคล้ายวันเกิดของใคร ให้คิดถึงความเจ็บปวดของแม่ก่อน เป็นอันดับแรก ซึ่งได้แก่ ย่ากับยาย และแม่น้ำของลูกคิด ต่อจากนั้น ก็เป็นเรื่องทำบุญทำทาน ส่วนงานเลี้ยงฉลอง ก็จะเป็นแค่ทานข้าวพร้อมหน้าภายในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ย่า และยาย เท่านั้นก็พอค่ะ (แต่ก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจ สำหรับใคร ที่อยากจะให้ของขวัญลูกคิดนะคะ)
ระหว่างย่ากับพ่อ และยายกับแม่ มีอะไรที่เหมือนกัน คือ ไม่เคยแสดงความรักด้วยการกอดกัน ทั้งๆ ที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่ารัก และห่วงใยกันตลอดเวลา -- แต่ระหว่างลูกคิดกับพ่อกับแม่ จะไม่เป็นอย่างนั้น ครอบครัวเราจะกอดและบอกรักกันทุกคืนก่อนนอน และทุกครั้งที่อยากทำ
ลูกคิดรักพ่อรักแม่ค่ะ
กลอนวันเกิด กลอนเดียวกันกับที่พี่เค้าอ่านให้แม่ฟัง แต่ลูกคิดคัดลอกมาจาก
iCyg@ng.cOmงานวันเกิด ยิ่งใหญ่ ใครคนนั้น
ฉลองกัน ในกลุ่ม ผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศ สรรเสริญ เพลินทนง
วันเกิดส่ง ชีพสั้น เร่งวันตาย
ณ มุมหนึ่ง ซึ่งเหงา น่าเศร้านัก
หญิงแก่แก่ นั่งหงอย และคอยหาย
โอ้วันนี้ ในวันนั้น อันตราย
แม่คลอดสาย โลหิต แทบปลิดชนม์
วันเกิดลูก เกือบคล้าย วันตายแม่
เจ็บท้องแท้ เท่าไร ก็ไม่บ่น
กว่าอุ้มท้อง กว่าคลอด รอดเป็นคน
เติบโตจน บัดนี้ นี่เพราะใคร
แม่เจ็บเจียน ขาดใจ ในวันนั้น
กลับเป็นวัน ลูกฉลอง กันผ่องใส
ได้ชีวิต แล้วก็เหลิง ระเริงใจ
ลืมผู้ให้ ชีวิต อนิจจา
ไฉนเรา เรียกกัน ว่า"วันเกิด"
"วันผู้ให้ กำเนิด" จะถูกกว่า
คำอวยพร ที่เขียน ควรเปลี่ยนมา
ให้มารดา คุณเป็นสุข จึงถูกแท้
เลิกจัดงาน วันเกิด กันเถิดนะ
ควรแต่จะ คุกเข่า กราบเท้าแม่
รำลึกถึง พระคุณ อบอุ่นแด
อย่ามัวแต่ จัดงาน ประจานตัว